เราเข้าใจความหงุดหงิดของคุณดี เอเจนท์ ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือด สิ่งสุดท้ายที่เหล่าผู้เล่นอยากจะเจอก็คือการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร นี่คือวิธีต่าง ๆ ในการกำหนดค่าเครือข่ายของคุณเพื่อช่วยให้คุณยังอยู่บนสนามรบและสามารถเพ่งความสนใจไปที่ชัยชนะได้ต่อไป
สำหรับขั้นตอนบางส่วนนั้น คุณจะต้องเข้าไปที่หน้าต่างเมนูตั้งค่าของ Windows คุณสามารถเข้าถึงได้โดยการกดปุ่ม Windows พิมพ์ Settings (การตั้งค่า) และกดปุ่ม Enter
เริ่มต้นกันที่พื้นฐาน
ก่อนที่คุณจะไปลงลึกการแก้ไขปัญหา มาตรวจสอบขั้นพื้นฐานเล็ก ๆ น้อย ๆ กันก่อนดีกว่า
-
Wi-Fi ของคุณเปิดอยู่หรือเปล่า? หากคุณใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ตรวบสอบให้มั่นใจว่า Wi-Fi ของคุณเปิดอยู่
- คุณสามารถทำได้โดยการไปที่ Settings (การตั้งค่า) > Network (เครือข่าย) & Internet (อินเทอร์เน็ต) > Wi-Fi (ไวไฟ)
- คุณได้เปลี่ยน SSID หรือรหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณหรือเปล่า? คุณควรตรวจสอบอีกครั้งว่าชื่อเครือข่าย (SSID) และรหัสผ่านของคุณนั้นถูกต้องหรือไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
- คุณได้ลองใช้การเชื่อมต่อโดยใช้สายแลนหรือยัง? หาก Wi-Fi มีปัญหาละก็ ให้คุณลองเชื่อมต่อโดยใช้สายแลนดู นอกจากการเชื่อมต่อของคุณจะเร็วขึ้นแล้ว มันจะยังเสถียรขึ้นอีกด้วย
- สายเคเบิลของคุณเชื่อมต่ออย่างถูกต้องหรือไม่? ตรวจสอบให้มั่นใจว่าสายแลนทั้งหมดของคุณที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์นั้นเสียบแน่นดีแล้ว
- คุณใช้โปรแกรม Proxy หรือ VPN อยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ล่ะก็ ลองเชื่อมต่อโดยไม่ใช้โปรแกรมเหล่านั้นดู โปรแกรมเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อของคุณได้ และคุณควรใช้มันในกรณีที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ เท่านั้น
-
Windows ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า? ในบางครั้ง Windows จะปล่อยการแก้ไขการเชื่อมต่อมาพร้อมกับการอัปเดต ดังนั้นมันจะดีกว่าที่จะอัปเดต OS ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
- คุณสามารถตรวจสอบการอัปเดตได้โดยไปที่ Setting (การตั้งค่า) > Update (อัปเดต) & Security (ความปลอดภัย) > Windows Update (อัปเดต Windows) และคลิกที่ปุ่ม Check for Updates (ตรวจหาการอัปเดต)
หากคำแนะนำข้างต้นไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเครือข่ายของคุณได้ละก็ นี่คือขั้นตอนอีกเล็กน้อยที่อาจจะช่วยได้
ลองใช้เครื่องมือแก้ไขปัญหาเครือข่ายของ Windows
หลาย ๆ ครั้งที่เครื่องมือตัวน้อยแสนมีประโยชน์นี้สามารถบ่งบอกได้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติ และลงมือแก้ไขปัญหาได้เลยอีกด้วย
- ไปที่ Setting (การตั้งค่า) > Network (เครือข่าย) & Internet (อินเทอร์เน็ต) > Status (สถานะ)
- คลิกที่ Network troubleshooter (แก้ไขปัญหาเครือข่าย) ด้านล่าง Advanced network settings (การตั้งค่าขั้นสูง)
เมื่อคุณคลิกเข้าไปแล้ว ตัวแก้ไขปัญหาอาจถามคุณว่าต้องการให้แก้ไขปัญหาในส่วนของเครือข่ายใด เมื่อคุณเลือกเครือข่ายแล้ว มันจะเริ่มตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อของคุณ และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว ก็จะบอกผลการวินิจฉัยและวิธีการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพมาให้ ในบางครั้ง มันอาจจะแก้ปัญหาให้คุณเลยก็ได้
หากตัวแก้ไขปัญหาเครือข่ายยังไม่สามารถหาวิธีการแก้ปัญหาได้ ก็มีขั้นตอนอีกเล็กน้อยที่คุณสามารถทำแล้วอาจช่วยแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อของคุณได้
เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ
ในบางครั้งเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเชื่อมต่อให้คุณอยู่นั้นอาจไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นเกมสักเท่าไหร่ คุณสามารถเพิ่มความเสถียร ความเร็ว และความน่าเชื่อถือในการเชื่อมต่อของเครือข่ายโดยการเปลี่ยนไปเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะที่ Google และ Cloudflare มีให้
โปรดจำไว้ว่า
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางรายอาจจะบล็อกเซิร์ฟเวอร์ DNS จากภายนอก หากคุณขาดการเชื่อมต่อหลังจากสับเปลี่ยนการตั้งค่า DNS คุณจำเป็นต้องแก้ไขกลับไปเป็นการตั้งค่าแบบเดิม
วิธีการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ
คุณสามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ DNS ของคุณเป็นเซิร์ฟเวอร์สาธารณะได้โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- ไปที่ Setting (การตั้งค่า) > Network (เครือข่าย) & Internet (อินเทอร์เน็ต) > Status (สถานะ)
- คลิกที่ Change adaptor options (เปลี่ยนตัวเลือกอะแดปเตอร์) ด้านล่าง Advanced network settings (การตั้งค่าขั้นสูง)
- คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณและเลือก Properties (คุณสมบัติ)
- เลือก Internet Protocol version 4 (TCP/IPv4)
- คลิกที่ Properties (คุณสมบัติ)
- ที่ส่วนล่างของเมนู เปลี่ยน Obtain DNS server address automatically เป็น Use the following DNS server addresses:
- เลือกหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ และใส่เลข Address ในช่องว่างที่มีไว้ให้
เซิร์ฟเวอร์ DNS ของ Google: 8.8.8.8
เซิร์ฟเวอร์ DNS ตัวเลือก: 8.8.4.4
เซิร์ฟเวอร์ DNS ของ Cloudflare: 1.1.1.1
เซิร์ฟเวอร์ DNS ตัวเลือก: 1.0.0.1 - คลิก OK
- กลับไปที่เมนูอะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณ หาการตั้งค่า Internet Protocol Version 6 (TCP/IPv6)
- นำเครื่องหมายออกจากกล่องที่อยู่ข้าง ๆ การตั้งค่านั้นเพื่อปิดใช้งาน
- เลือก OK เพื่อบันทึกการแก้ไข
รีเฟรช IP Address ของคุณ
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเริ่มต้นใหม่! หากคุณพบปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ การรีเฟรช IP Address ของคุณคือวิธีที่ดีในการแก้ไขบั๊กเล็ก ๆ น้อย ๆ และการแก้ปัญหาเครือข่ายต่าง ๆ
วิธีรีเฟรช IP Address ของคุณ
คุณสามารถทำการรีเฟรช IP Address ของคุณได้ด้วยวิธีดังนี้
- ปิดเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งหมด
- กดปุ่ม Windows (ที่อยู่ระหว่างปุ่ม Ctrl และ Alt ด้านซ้ายของปุ่ม Space Bar)
- พิมพ์ CMD และกดปุ่ม Enter เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Prompt
- พิมพ์ ipconfig/release ลงใน Command Prompt เมื่อผ่านไปสักพัก คุณจะเห็นตัวอักษรและเลขมากมายโผล่ขึ้นมาบนหน้าต่าง Command Prompt ซึ่งหมายความว่า IP Address ของคุณในขณะนั้นถูกนำออกแล้ว
- พิมพ์ ipconfig/Renew ลงใน Command Prompt เมื่อผ่านไปสักพัก คุณจะเห็นตัวอักษรและเลขมากมายโผล่ขึ้นมาบนหน้าต่าง Command Prompt ซึ่งหมายความว่า IP Address ของคุณในขณะนั้นถูกรีเฟรชแล้ว
- พิมพ์ ipconfig/flushdns ลงใน Command Prompt เพื่อลบแคชของคุณ และทำให้การเชื่อมต่อของคุณนั้นราบรื่นไร้ที่ติ
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
ตรวจสอบ Firewall ของคุณ
ในบางครั้ง Firewall ของคุณก็ทำหน้าที่ได้ดีเกินไปในการปกป้องคอมพิวเตอร์ให้ปลอดภัย จนขนาดทำการบล็อก Valorant หรือ Vanguard คุณสามารถทำตามคู่มือนี้เพื่อให้มั่นใจว่าโปรแกรมทั้งสองนั้นได้รับอนุญาติโดย Firewall ของคุณ
ตั้งค่า Port Forwarding
และถ้าไม่ใช่ Firewall ของคุณที่ทำงานได้ดีเกินไป ก็อาจจะเป็นที่ตัวเราเตอร์ของคุณก็ได้ หากคุณประสบปัญหาในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเราล่ะก็ คุณอาจจะต้องทำการ Port Forwarding มันอาจจะฟังดูยุ่งยาก แต่เราได้รวบรวมคู่มือที่อาจจะช่วยคุณได้บ้างไว้ให้แล้ว
หากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณสามารถส่งคำร้อง หาเรา และเราจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยแก้ปัญหาการเชื่อมต่อของคุณ