จะมีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการได้เห็นเหล่าเอเจนท์เดิมพันทุกอย่างในสนามล่ะ? แน่นอนว่าเราหมายถึงการเดิมพันทุกอย่างในขณะที่พยายามเอาชนะเอเจนท์คนอื่น ๆ โหมด Competitive ใน VALORANT ได้รับการอัปเกรดเล็กน้อย ดังนั้นการเตรียมตัวของคุณให้พร้อมสำหรับสิ่งเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมานั้นสำคัญมาก มาลองดูกันว่าฉันจะตอบคำถามของคุณได้หรือเปล่า
มีข้อกำหนดใดบ้างในการเข้าเล่นโหมด Competitive?
เราคงไม่สามารถส่งเอเจนท์มือใหม่เข้าไปในสนามรบได้ หากพวกเขายังไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้ ตั้งแต่ Episode 4 Act 1 เป็นต้นไปนั้น คุณจะต้องมีเลเวลบัญชีอย่างน้อยเลเวล 20 เพื่อที่จะสามารถเข้าเล่นในโหมด Competitive ได้ แต่หากคุณเคยเล่นเกมจัดอันดับมาแล้วอย่างน้อย 1 เกมก่อน Episode 4 ถึงแม้ว่าคุณจะมีเลเวลบัญชีไม่ถึง 20 คุณจะยังสามารถเข้าเล่นในโหมด Competitive ต่อได้
หมายเหตุ
ก่อนที่จะเข้าสู่ Episode 4 นั้น คุณจำเป็นต้องชนะเกมโหมด Unrated 10 เกมเพื่อที่จะสามารถเข้าเล่นโหมด Competitive ได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ข้อกำหนดเดียวที่จะปลดล็อกโหมด Competitive ได้นั้นคือการเก็บเลเวลบัญชีของคุณให้ถึงตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแค่นั้น
แรงค์และแรงค์ Act แตกต่างกันยังไง?
ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เอเจนท์อย่างคุณได้รู้ข้อมูลสำคัญ ๆ เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นเราจึงได้คิดค้นหลาย ๆ วิธีในการวัดทักษะของคุณ
แรงค์อาจเป็นสิ่งที่คุณคุ้นเคยอยู่แล้วหากคุณเล่น VALORANT มาสักพัก เพราะนี่เป็นวิธีการกำหนดทั้งทักษะและระดับของคุณได้อย่างแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้น ปาร์ตี้ของคุณจะมองเห็นแรงค์ของคุณได้ในแท็บเมนู และกระดานสรุปคะแนน
แรงค์มีดังต่อไปนี้: Iron, Bronze, Silver, Gold, Platinum, Diamond, Ascendant, Immortal และ Radiant แต่ละแรงค์จะมีสามระดับ ยกเว้นแรงค์ Radiant ยิ่งตัวเลขสูงขึ้นเท่าไหร่ แรงค์ของคุณก็จะสูงขึ้นเท่านั้น แรงค์ของคุณจะมีผลโดยตรงกับแรงค์ Act เมื่อเวลาผ่านไป
แรงค์ Act ของคุณจะเป็นตัววัดระดับของคุณใน Act นั้น ๆ มันจะถูกกำหนดโดยแรงค์สูงสุดของคุณ ซึ่งเราอยากเรียกว่าเป็นทักษะที่พิสูจน์แล้วของคุณ
อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงค์ Act งั้นเหรอ? คุณสามารถเรียนรู้ข้อมูลทั้งหมดได้จากบทความแรงค์ Act และรางวัลประจำ Episode ของเรา
แล้วเรตติ้งแรงค์คืออะไร?
เรตติ้งแรงค์ (หรือเรียกย่อ ๆ ว่า RR) จะแสดงความคืบหน้าของคุณในขณะที่คุณไต่แรงค์อยู่ และทำงานแตกต่างกันระหว่างช่วงแรงค์ Iron ถึง Ascendant กับช่วงแรงค์ Immortal และ Radiant หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของเรตติ้งแรงค์ ตามลิงก์ด้านล่างไปเลย
เรตติ้งแรงค์ (RR) สำหรับแรงค์ Iron ไปจนถึง Ascendant
เรตติ้งแรงค์ (RR) สำหรับแรงค์ Immortal และ Radiant
หากต้องการดูภาพการแจงแจงโดยละเอียด โปรดอ่านวิธีคำนวณเรตติ้งแรงค์ (RR)
แรงค์ของฉันจะลดลงไปตามเวลาหรือไม่?
ตอบอย่างสั้น ๆ ก็ไม่! แรงค์จะไม่ตกลงไปเองนะเพื่อน
คำตอบอย่างยาวก็ยังคงเป็นคำว่าไม่นั่นแหละ แต่สำหรับคนที่อยู่แรงค์ Immortal และ Radiant คุณสามารถตกอันดับกระดานผู้นำได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร แรงค์ของคุณก็จะไม่ตกลงไปตามเวลา มีเพียงตำแหน่งในกระดานผู้นำของคุณเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
ฉันสามารถเล่นโหมด Competitive กับเพื่อนได้หรือไม่?
ได้สิ! คุณสามารถเข้าคิวกับเพื่อนได้แม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างทักษะฝีมืออยู่... ได้จนถึงระดับหนึ่งน่ะ หากคุณเล่นเป็นกลุ่ม 2-3 คน คุณจะสามารถเล่นโหมด Competitive กับเพื่อนที่อยู่ในช่วงแรงค์ที่กำหนดเท่านั้น ดูรายละเอียดด้านล่างได้เลย:
ข้อจำกัดการเล่นเป็นปาร์ตี้
สำหรับปาร์ตี้ 2 ถึง 3 คน ผู้เล่นจะสามารถเข้าคิวด้วยกันตามข้อจำกัดความแตกต่างระหว่างแรงค์ดังนี้:
แรงค์ต่ำสุดในปาร์ตี้ | แรงค์สูงสุดในปาร์ตี้ |
---|---|
Iron และ Bronze | Silver |
Silver | Gold |
Gold | Platinum |
Platinum, Diamond, Ascendant, Immortal และ Radiant | แรงค์ที่สูงกว่า 1 ระดับแรงค์แบบเป๊ะ ๆ (เช่น Platinum 2 จะสามารถเข้าคิวได้กับผู้เล่นแรงค์สูงสุดที่ Diamond 2) |
กลุ่มที่มี 5 คน (จัดทีม 5 คน) ไม่จำเป็นต้องไปสนใจแผนภูมิด้านบน เพราะปาร์ตี้รูปแบบนี้ไม่มีการจำกัดการเล่นแบบจัดอันดับใด ๆ อย่างไรก็ตาม การจัดทีม 5 คน ของผู้เล่นแรงค์ Iron จนถึง Ascendant จะมีบทลงโทษ RR หากมีผู้เล่นที่มีแรงค์หลุดจากช่วงที่กำหนดไป ตัวอย่างเช่น การจัดทีม 5 คน ของผู้เล่นที่ทุกคนอยู่ในช่วงแรงค์ Silver และ Gold นั้นจะไม่มีบทลงโทษ RR การจัดทีม 5 คน ของผู้เล่นแรงค์ Silver, Gold และ Ascendant จะได้รับบทลงโทษ RR)
ขีดจำกัดของการจัดทีมล่วงหน้าคืออะไร?
การสร้างปาร์ตี้ 3 คนหรือน้อยกว่านั้น จำเป็นต้องตรงตามเงื่อนไขความแตกต่างด้านทักษะด้านบน การสร้างปาร์ตี้ 4 คนไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมันมักจะทำให้ผู้เล่นอีกคนนึงที่เหลือได้รับประสบการณ์การเล่นที่ไม่ดีนัก
ผู้เล่นที่อยู่ในแรงค์ Immortal 1 หรือสูงกว่าจะสามารถเล่นได้แค่คิวเดี่ยว คิวคู่ และทีม 5 คนเท่านั้น
ถ้าหากฉันเข้าคิวแบบครบทีม 5 คนล่ะ?
อย่างที่กล่าวไว้ด้านบน การจัดทีม 5 คนสามารถทำได้โดยไม่มีการจำกัดการเล่นแบบจัดอันดับใด ๆ นั่นหมายความว่าคุณสามารถเล่นกับเพื่อนอีก 4 คนที่เหลือโดยไม่ต้องสนใจระดับทักษะที่ต่างกัน ทีมของคุณอาจจะประกอบด้วยผู้เล่น Iron 3 คนและ Ascendant 2 คนก็ได้ ตราบใดที่คุณเข้าคิวจับคู่และเล่นด้วยกันเป็นทีม 5 คน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโอกาสที่ความแตกต่างของแรงค์ระหว่างคนในทีมนั้นมีค่อนข้างสูง การจัดทีม 5 คนจึงจะต้องทำตามกฎเฉพาะของตัวเอง
- หากสมาชิกในทีม 5 คนของคุณทุกคนอยู่ในแรงค์ Ascendant 3 หรือต่ำกว่า ทีมของคุณจะได้รับการปรับลด RR 25% หากมีผู้เล่นที่มีแรงค์หลุดจากช่วงที่กำหนดไป
- หากสมาชิกในทีม 5 คนของคุณอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่ระดับ Immortal 1 ถึง Immortal 3 ทีมของคุณจะได้รับบทลงโทษการปรับลด RR 25%
- หากสมาชิกในทีม 5 คนของคุณอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่ระดับ Radiant ทีมของคุณจะถูกปรับลด RR 75% การมีผู้เล่นในกลุ่มของคุณที่มีแรงค์ต่ำกว่า Radiant จะลด RR ที่ได้รับและเสียไป 90% โดยอัตโนมัติ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทีม 5 คนในโหมด Competitive เข้าไปดูได้ที่แพตช์โน้ต VALORANT 3.10 และแพตช์โน้ต VALORANT 5.0
หมายเหตุ
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อทำการจัดทีม 5 คน คุณสามารถคาดเดาได้เลยว่าเวลารอคิวจะนานขึ้น เพราะเราจะจับคู่คุณกับทีม 5 คนทีมอื่นเท่านั้น
จะเกิดอะไรขึ้น หากฉันพบกับผู้ที่โกงเกมที่ยืนยันแล้วในการเล่นโหมด Competitive
การพบผู้ที่โกงเกมในเกมของคุณนั้นอาจเป็นเรื่องที่อึดอัดใจ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม ในขณะที่พวกเรากำลังทำงานเพื่อนำผู้ที่โกงเกมออกจากเกม พวกเราก็อยากที่จะดูแลผู้เล่นที่ได้รับผลกระทบด้วย
หากคุณแพ้ให้กับผู้ที่โกงเกมที่ยืนยันแล้ว เราจะคืน RR ที่คุณสูญเสียไปให้ เมื่อเราแบนผู้ที่โกงเกมแล้ว
หากคุณชนะการแข่งขันกับผู้ที่โกงเกมที่ยืนยันแล้ว จะมีหนึ่งในสองสิ่งเกิดขึ้น โดยขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับฝ่ายที่กระทำผิด:
- หากผู้ที่โกงเกมถูกสุ่มให้เข้าร่วมทีมของคุณ คุณจะเก็บ RR ใด ๆ ที่คุณชนะไว้ได้ นี่อาจจะไม่ฟังดูไม่ยุติธรรม แต่ก็นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของคุณเช่นกัน
- หากคุณจงใจเข้าคิวจับคู่กับผู้ที่โกงเกมในกลุ่มที่สร้างไว้ล่วงหน้า คุณจะถูกแบนพร้อมกับพวกเขา
หากคุณสงสัยว่ามีผู้เล่นที่กำลังโกงเกม ก็รายงานพวกเขาได้เลย